ปัญหาท้องอืด ท้องเสียเกิดขึ้นได้กับทุกวัย แต่สำหรับเด็กๆที่ไม่สามารถบอกอาการได้ ดูไม่ร่าเริง มีอาการปวดท้องบ่อยๆ คุณพ่อคุณลองตัวหาตัวช่วยอย่างโปรไบโอติกดีๆมาดูแลลำไส้ลูกันค่ะ
โปรไบโอติก เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต หลายสายพันธุ์มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อเรากินเข้าไป โปรไบโอติกจะไปอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่เดิม ทำให้แบคทีเรียที่ดีมีจำนวนมากขึ้น และแบคทีเรียนที่ไม่ดีมีจำนวนลดลง (ก็คือพวกที่ทำให้ท้องอืด ท้องเสีย สร้างสารก่อมะเร็ง สารที่มีกลิ่นเหม็น ฯลฯ)
โปรไบโอติกทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์อื่นๆ เช่น เพิ่มภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ขั้นตอนการเลือกโปรไบโอติก
ขั้นที่ 1 เริ่มกันที่บริเวณหน้าตู้แช่ ให้ยื่นมือเข้าไปในตู้แช่บริเวณชั้นวางผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ที่รู้จักกันก็คือโยเกิร์ตนั่นเอง ถ้าตู้แช่เย็นจัดเท่าตู้ที่บ้านหรือเย็นกว่า เป็นอันว่าใช้ได้ เนื่องจากโพรไบโอติคส์ชอบอากาศเย็น จะอยู่สุขสบายมีจำนวนที่มีชีวิตมากกว่าในที่อากาศร้อน
ขั้นที่ 2 หยิบขวดโยเกิร์ตหรือขวดนมที่คิดว่ามีโปรไบโอติกขึ้นมา พลิกไปด้านข้างหรือด้านหลัง อ่านชื่อเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในถ้วย ถ้าเป็น
สเตร็ปโตค็อคคัส เทอร์โมฟิลัส (Streptococcus thermophilus)
และ แล็คโตแบซิลลัส เดลบรูคคิไอ ชับสปีชี่ส์ บัลการิคัส (Lactobacillus delbrueckii subspbulgaricus) ทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ทำโยเกิร์ตธรรมดา ไม่จัดเป็นโพรไบโอติคส์ ให้มองหาชื่อเชื้ออื่นที่ข้างถ้วยต่อจนเจอเชื่อที่เป็นโพรไบโอติคส์
ไบฟิโดแบคทีเรียม ไบฟิดุม (Bifidobacterium bifidum)
ไบฟิโดแบคทีเรียม แอนิมาลิส (Bifidobacterium animalis DN173010)
แล็คโตแบซิลลัส เคซิไอ (Lactobacillus casei)
แล็คโตแบซิลลัส แอซิโดฟิลลัส (Lactobacillus acidophilus)
ขั้นที่ 3 ในขั้นนี้ที่ยังไม่รู้ว่าเชื้อไหนเหมาะกับลูก ให้ถามตัวเองว่าลูกอยู่กลุ่มไหน
“ท้องผูก อ้อนวอนกันทุกเช้า” ให้ลองเลือก “ไบฟิโดแบคทีเรียม แอนิมาลิส” ก่อน เนื่องจากเชื้อนี้มักทำให้ย่นระยะเวลาที่อาหารอยู่ในลำไส้ แปลว่าทำให้ขับถ่ายเร็วขึ้น
“ลำไส้ไว เข้าห้องน้ำวันละหลายรอบ”
ควรจะเลี่ยงโยเกิร์ตที่มี พรีไบโอติคส์ (อาหารของโปรไบโอติก) อยู่ด้วย
และไม่ควรเลือก “ไบฟิโดแบคทีเรียม แอนิมาลิส”
ให้ลองโปรไบโอติกตัวไหนก็ได้ แล้วลองกินไปสัก 2-3 สัปดาห์ โดยกินเช้า-เย็น วันละ 1-2 ถ้วยทุกวัน เริ่มแรกท้องไส้อาจรู้สึกปั่นป่วน เนื่องจากมีการแก่งแย่งพื้นที่ในลำไส้ใหญ่ระหว่างกลุ่มต่างๆของแบคทีเรียเพื่อตั้งรกราก หากไม่มีอะไรผิดปกติอย่างอื่น ก็ให้กินต่อไปทุกวัน หลังจาก 2 สัปดาห์แล้ว ให้สำรวจว่ารู้สึกสบายท้องขึ้นหรือไม่ ขับถ่ายดีหรือไม่ กินโปรไบโอติกนี้แล้วรู้สึกว่าสุขภาพลำไส้ดีขึ้นหรือไม่
ขั้นที่ 4 คุณพ่อคุณแม่ดูที่ฉลากข้างถ้วยบอกตัวเลขจำนวนเชื้ออยู่ เช่น 20,000 ล้านตัว แล้วคุณก็เขียนให้เป็นตัวเลขทั้งหมด ในที่นี้ก็คือ 20,000,000,000 ตัว ทีนี้ก็เริ่มนับเลขศูนย์ที่มีทั้งหมด ตราบใดที่มีเลขศูนย์อย่างน้อย 10 ตัว ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ตัวเลขมากดีกว่าตัวเลขน้อย
เนื่องจากโปรไบโอติกต้องเดินทางฝ่าด่านกรด และด่านน้ำดี ฯลฯ ตกหายตายจากไประหว่างทางในทางเดินอาหาร กว่าจะถึงที่ตั้งรกรากในลำไส้ใหญ่พวกที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ลดจำนวนลงไปมาก ดังนั้นเลือกจำนวนมากไว้ก็จะดีกว่าเลือกไปแล้ว ลองไปแล้ว ไม่ถูกใจ สู้ของเดิมในลำไส้ไม่ได้
อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลน้อยๆ ถ้ามไม่มีเลยยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าลูกๆกินเป็นประจำก็อาจทำให้จ้ำม่ำได้น้า
ขอบคุณข้อมูล